มะนาวไทยแพง! แม่ค้าข้าวแกงพลิกใช้ ‘มะนาวยักษ์’พม่า!


คนไทยขาดรสเปรี้ยวไม่ได้ ถึงแม้มะนาวจะแพงเพราะความแห้งแล้ง แต่แม่บ้านแม่ค้าก็ต้องหาเสาะหาของเปรี้ยวมาปรุงรส ที่จันทบุรี แม่ค้าข้าวแกงใช้มะนาวพม่า หรือ‘มะนาวยักษ์’ลูกเท่าส้มโอ 1ลูกคั้นน้ำได้เกือบครึ่งลิตรผสมกับมะนาวแป้นลดต้นทุน...       

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2558 ผู้สื่อข่าวจ.จันทบุรี รายงานว่า ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ร้านขายอาหารตามสั่งและข้าวแกงที่จำเป็นต้องใช้มะนาว ซึ่งเดิมเคยใช้มะนาวแป้้นแต่ราคาแพง ต้องหันมาให้มะนาวยักษ์ปรุงรสเปรี้ยวแทน

นางกัลยา ธีฆายุ เจ้าของร้านแกงป่า ในซอยวัดเกวียนหัก กล่าวว่า มะนาวยักษ์ หรือ มะนาวพม่า ทางญาติได้ซื้อต้นพันธุ์มาจากงานวิชาการเกษตร ที่สวนวิจัยพืชสวนพลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี แล้วนำมาปลูกได้ 6 ปีแล้ว ออกผลออกมาใหญ่มาก เกือบเท่ากับผลส้มโอ เมื่อนำมาคั้นเอาน้ำด้วยมือเปล่า พบว่าแม้ผลจะใหญ่แต่เวลาคั้นเปลือกจะนิ่มได้น้ำน้อย เพราะมือไม่สามารถคั้นได้อย่างทั่วถึง จึงใช้อุปกรณ์ใการคั้นทำให้ได้น้ำมะนาวในปริมาณมาก ต่างจากการคั้นด้วยมือหลายเท่าตัว โดยน้ำจากผลมะนาวยักษ์ 1 ผลเมื่อนำถ้วยขนาด 500 ซีซี.มาใส่ ได้น้ำมะนาวถึงค่อนถ้วย


นอกจากนี้ นางกัลยา ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันที่ร้านใช้น้ำมะนาวบ้าน หรือ มะนาวแป้น จำนวน 3 ส่วน แล้วผสมน้ำมะนาวยักษ์ ลงไป 1 ส่วน เพื่อให้ได้ความหอมของกลิ่นมะนาวไทย ทำให้ประหยัดต้นทุนในช่วงฤดูมะนาวแพงได้เป็นอย่างดี และอยากฝากไปยังหน่วยงานในจังหวัด ให้ส่งเสริมการปลูกมะนาวยักษ์ไว้เพื่อนำมาใช้ทดแทนในช่วงที่มะนาวขาดแคลน โดยเฉพาะหน้าแล้ง


สำหรับ มะนาวพม่า หรือที่คนไทยเรียกว่ามะนาวยักษ์ มีผลโต หากมองผิวเผินจะคล้ายกับผลส้มโอ ให้รสเปรี้ยวเหมือนมะนาวทั่วไป แต่น้ำมะนาวกลับไม่มีกลิ่นหอมเหมือนเช่นมะนาวของไทย น้ำหนักเฉลี่ยประมาณลูกละครึ่งกิโลกรัม โดยสามารถคั้นน้ำเพื่อรับประทานสดๆ หรือใช้ปรุงอาหารได้ทุกชนิด ทั้ง แกงส้ม ยำ น้ำพริก หรือ น้ำจิ้ม ที่สำคัญ มะนาวพม่า 1 ลูก จะให้ปริมาณน้ำที่มากเท่ากับมะนาวทั่วไปถึง 10-15 ลูก แถมยังมีรสเปรี้ยวจัด.

แหล่งข้อมูล : http://www.thairath.co.th/content/486602
Share on Google Plus

About ไม่มีชื่อ

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น